วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

"หิวบ่อย" อาการนี้เกิดขึ้นจริง หรือคิดไปเอง

หนึ่งในแพลนที่หลายคนตั้งใจว่าจะทำให้ได้ในปีนี้ก็คือ "ตั้งใจว่าจะต้องลดน้ำหนักให้สำเร็จ" ... ร้อยละ 99.99 เชื่อว่าการลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่หลายคนคิดจะเริ่มทำอยู่หลายครั้งในรอบหนึ่งปี แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ เพราะแพ้ภัยความอยากของตัวเอง เห็นของกิน ขนมกรุบกรอบ ทีไรเป็นต้องอดใจไม่ไหวเป็นต้องหยิบใส่บางเคี้ยว กรอบๆๆๆ สบายใจ (ลืมไปว่า ลดความอ้วนอยู่!!!)

 บางคนตั้งข้อสังเกตว่ายิ่งเราตั้งใจว่าจะลดน้ำหนักและควบคุมอาหารมากเท่า ไหร่ ความอยากยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น ทั้งๆ ที่พยายามกินข้าวให้อิ่ม ครบมือตรงเวลา แต่พอถึงเวลาที่ไม่ใช่ช่วงเวลาอาหารก็ยังรู้สึกหิวบ่อยๆ จนบางครั้งอดใจไม่ไหว ต้องไปกินๆๆๆๆๆ จนน้ำหนักตัวพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีวี่แววมาจะลดลงได้เลย หลายคนบอกว่าซื้อเสื้อผ้าใหม่ยังง่ายกว่าให้ลดน้ำหนักเสียอีก -*-โถ! อย่าเพิ่งถอดใจไปสิคะ เจ้าอาการหิวไม่เป็นเวลา รู้สึกอยากกินโน่นกินนี่ตลอดเวลา จริงๆ แล้วไม่ใช้อาการหิวจริงๆ หรอกค่ะ แต่เป็นอาการหิวหลอกมากกว่า โดยสาเหตุของอาการหิวหลอกที่ทำให้เราไม่รู้ตัวนั้นอาจจะมาจาก

หิวเพราะกระหายน้ำ หลายคนเหมารวมอาการนี้ไปกับความอยากกินขนมกรุบกรอบและอาหารหนักๆ ต่างๆ ซึ่งเราควรแก้ไขให้ตรงจุดโดย ถ้าหากรู้สึกว่าเริ่มหิวนอกมื้ออาหารขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้ลองดื่มน้ำเปล่าดูสักแล้ว แล้วความอยากก็จะลดลงค่ะ

หิวเพราะเห็นอาหารน่ากิน กิเลส ล้วนๆ เลยค่ะ บางทีนั่งเล่นเฟซบุ๊คอยู่ดีๆ เพื่อนก็แชร์รูปอาหารมาให้ดูเท่านั่นล่ะค่ะ ต่อมความอดทนก็แตกพ่ายต่อภาพอาหาร จนทำให้เราต้องเดินไปหาอะไรมาใส่ปากแก้อยากจนได้ หรือบางทีแค่เห็นของกินที่ชื่นชอบมาวางอยู่ใกล้ๆ ก็อดใจไม่ไหวที่จะหยิบใส่ปาก -*-

หิวเพราะอารมณ์เสีย "โอ๊ย อารมณ์ไม่มีแบบนี้ต้องหาอะไรมากระแทกปากซักหน่อยแล้ว!!!" คำพูดนี้ได้ยินบ่อยมากถึงมากที่สุด หลายคนกินว่าการกินจะช่วยให้ผ่อนคลายได้ แต่จริงๆ แล้ว ที่โกรธแล้วต้องกินเยอะๆ นั้น อาจเป็นแค่ทางออกหนึ่งในการระบายอารมณ์ให้หายหงุดหงิดก็เป็นได้

หิวเพราะปาร์ตี้ เวลาต้องไปพบปะปาร์ตี้กับเพื่อนๆ กิจกรรมอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือการชวนกันไปนั่งกินอะไรอร่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าในสถานการณ์นั้นเราก็จะต้องโอเคเซย์เยสไปกับเพื่อนๆ อยู่แล้ว ยิ่งกินไปเม้าท์ไปยิ่งเพิ่มอรรถรสในการกินเข้าไปใหญ่ มารู้ตัวอีกที อุ๊ยตาย! ตัวจะแตกแล้ว -*- 


     อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่เราจะเหมารวมว่าเป็นอาการหิว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอกค่ะมันเกิดจากความอยากกินของเราเองมากกว่า ดั้งนั้น เมื่อ เวลารู้สึกว่าหิวนอกมื้ออาหารเมื่อไหร่ ให้เราพยายามข่มใจเข้าไว้ ใช้ความอดทนให้ถึงที่สุด ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ ก็หยิบผลไม้ (ที่น้ำตาลน้อยๆ) เข้าปากไปสักชิ้นสองชิ้นพอให้ความอยากลดลงยวิธีนี้ก็สามรถช่วยได้ค่ะ ...ท่องจำให้ขึ้นใจนะคะว่า ถ้าไม่อยากอ้วน ก็อย่ากินนอกมืออาหาร เด็ดขาดค่ะ!!
 

 
เครดิต http://www.dek-d.com
 

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ลองศึกษาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบริโภคคาร์โบค่ะ^^

      หลายๆคนคงจะเคยได้ว่า ในช่วงที่ไดเอตควรทานคาร์โปไฮเดรตพวกข้าวกล้อง ถึงจะช่วยไดเอตได้ดี ทำไมถึงต้องเป็นข้าวกล้องด้วยล่ะ? ข้าวขาวไม่ได้หรอ?
     
ก่อนจะอธิบายเรื่องของข้าวกล้อง ขออธิบายในส่วนของกลไกร่างกายซะก่อนเราก็ทราบเหตุผลแล้วว่า การไดเอตนั้น “ต้องลดในส่วนของคาร์โบไฮเดรตลง และเพิ่มส่วนของโปรตีนให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายให้ไขมันเป็นพลังงาน” แต่ก็ต้องมีคนสงสัยว่า ทำไมไม่ทานแบบ คาร์โบไฮเดรตในปริมาณปกติ แต่ ไขมัน 0 ไปเลยล่ะ เพราะไขมันทำให้อ้วนไม่ใช่หรอ? เพราะประเด็นสำคัญก็คือ “ถ้าหาก ร่างกายของเรามีระดับของฮอร์โมนอินซูลินที่สูง ก็จะหยุดใช้พลังงานจากไขมัน แต่ไปใช้พลังงานจากคาร์โปไฮเดรต ซึ่งเป็นพลังงานหลักแทน”  การที่ร่างกายจะมีระดับของฮอร์โมนอินซูลินสูงได้นั้น ก็มีเหตุผลเดียวก็คือ การทานคาร์โบไฮเดรตลงที่ย่อยไว ซึ่งแหล่งของคาร์บที่ย่อยไวมากๆที่ใกล้ตัวเราที่สุดกืคือ “ข้าวขาว” หรือเเป้งที่ผ่านการขัดสี ดังนั้น เพื่อไม่ให้ระดับของอินซูลินเพิ่มสูงเกินไป จึงแนะนำให้ทาน “ข้าวกล้อง” แทนข้าวขาว เนื่องจากลักษณะภายนอกของข้าวกล้อง ที่มีส่วนของเปลือกเยื่อบางๆสีน้ำตาลห่อหุ้มอยู่ ซึ่งเยื่อส่วนนี้จะยึดติดกับส่วนของเนื้อข้าว มีความเหนียว แตกตัวค่อนข้างยาก จึงใช้เวลาในการหุงนานกว่าข้าวปรกติ เยื่อส่วนนี้ ทำให้ข้าวกล้องมีความแตกต่างจากข้าวขาว เพราะเจ้าเยื่อตัวนี้ไม่สามารถย่อยได้ในร่างกายของคน ดังนั้น ถ้าหากเยื่อนี้ยังห่อหุ้มข้าวอยู่ ร่างกายของเราก็ไม่สามารถย่อยข้าว เพื่อเอาคาร์โปไฮเดรตไปใช้เป็นพลังงานได้ซึ่งข้าวกล้องนี้จะแตกตัวโดยการเคี้ยว และ “มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยน้อยกว่าข้าวขาว ส่งผลให้การย่อยข้าวกล้อง เป็นแบบช้าๆ” โดยค่อยๆปลดปล่อยน้ำตาลกลูโคสออกมาจึงทำให้อินซูลินหลั่งออกมาน้อยทำให้ร่างกายยังใช้ไขมันเป็นพลังงานได้ตามปกติ ต่างจากข้าวขาว ซึ่งโดยปกติก็มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยเยอะอยู่แล้ว ถ้าหากเราเคี้ยวให้ละเอียดมากขึ้น ข้าวก็จะแตกตัว และมีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยมากตามไปด้วย ทำให้การย่อยก็เกิดได้ไว ได้น้ำตาลกลูโคสในปริมาณสูงและอินซูลินหลั่งออกมาเพื่อพากลูโคสเข้าสู่เซลล์ ส่งผลให้ร่างกายหยุดใช้พลังงานจากไขมัน มาใช้พลังงงานจากคาร์บแทน  และนี่คือเหตุผล ที่ “ทำไมเราจึงควรทานข้าวกล้องในช่วงไดเอต” นั้นเอง Credit: กระทิง เมืองช้า

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รอบเดือนกับการลดน้ำหนัก

ในช่วงที่เรามีประจำเดือนเราจะมีอาการหลากหลาย บางคนอาจจะอยากอาหารเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ร่างกายจะอมน้ำได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้ตัวเราบวมๆ ในช่วงวันนั้นของเดือน บางคนอารมณ์แปรปรวน ฯลฯ ล้วนแต่เป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายเราที่เปลี่ยนแปลง
อาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่าง กายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกาย  เราเรียกอาการแบบนี้ทางการแพทย์ว่า ”กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน” ( PMS: Premenstrual Syndrome ) หนึ่งในกลุ่มอาการนี้ได้แก่ ตัวบวม หน้าท้องขยาย ร่างกายจะสะสมน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึง 1-2 กิโลกรัมในช่วงก่อนมีประจำเดือน หลังจากนั้นน้ำหนักจะลดลงได้เอง
อาการไม่สบายขณะมีรอบเดือนพบได้หลากหลายกว่า 150 ชนิด แต่เราสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆได้แก่
  • เจ้าน้ำตา
  • ท้องอืด (นี่เราก็เป็น)
  • ขี้โมโห
  • ไม่มีแรง
  • หิวบ่อย (อันนีก็เป็น เป็นทุกเดือน)
  • น้ำหนักขึ้น
 

อาการหิวบ่อย สาเหตุของอาการหิวบ่อยเกิดจากการที่สาร ”เซโรโทนิน”ในร่างกาย ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือนค่ะ ทำให้ร่างกายของเราต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายใช้ของหวานไปเพิ่มสารตัวนี้ นับว่าเป็นกลไกทางธรรมชาติ เพราะอะไรผู้หญิงจึงได้มีอาการก่อนมีประจำเดือน แพทย์หลายคนจะตอบว่าเป็นเพราะสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ โดยเชื่อกันว่ามีฮอร์โมนอยู่สองชนิดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการนี้ นั่นคือ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (Progesterone) และ โพรแลกติน (prolactin) ก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีระดับสูงขึ้น มีผลทำให้เราหงุดหงิด ขี้โมโห และมีอาการอื่นๆอีกเป็นร้อยอาการทีเดียว

ลดอย่างไรในขณะมีประจำเดือน

อย่างรู้ๆกันเมื่อเรากำลังอยู่ในโปรเเกรมลดน้ำหนัก สิ่งที่คนลดความอ้วนพยายามทำกันก็คือ พยายามที่จะจำกัดอาหารให้เท่ากับที่ตนเองเคยรับประทานมาก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายก็ทนกันไม่ได้ เกิดอาการตะบะแตก และรับประทานไม่หยุดโดยเฉพาะอาหารขยะที่มีแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตสูง ทั้งนี้เพราะอาหารดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายได้อย่างรวด เร็ว สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนมองข้ามไปก็คือ ช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้น การเผาผลาญพลังงานของร่างกายก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยมีการทำการทดลองเรื่องการเผาผลาญพลังงานช่วงก่อนมีประจำเดือน และพบว่าการเผาผลาญพลังงานในช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้นเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 100-500 kcal/วัน (แล้วแต่บุคคล) ในประเด็นดังกล่าวนี้ แนะนำว่า ให้คุณผู้หญิงที่ลดความอ้วนทุกคนที่มีอาการหิวโหยในช่วงเวลาก่อนที่มีประจำ เดือนรับประทานอาหารได้เพิ่มมากขึ้น 200-500 kcal /วัน (ห้ามเกินกว่านี้เด็ดขาด) ซึ่งนั้นก็พอ ๆ กับอาหารอีก 1 มื้อ เช่นกัน
ดังนั้น หากคุณโหยหาอาหารช่วงก่อนมีประจำเดือนก็ทานเถอะ อย่าหักห้ามใจตัวเองให้มากนัก การที่หักห้ามใจไม่ทานอะไรเลยในช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือนมักจะส่งผลเสียกับ การลดน้ำหนัก เพราะโดยปกติแล้วส่วนใหญ่มักจะหักห้ามใจตนเองกันไม่ได้ และก็มักจะจบด้วยอาหารขยะทั้งหลาย สาเหตุหลักก็เพราะว่าเมื่อความอดทนถึงขีดสุด ความอยากอาหารก็จะปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อความอยากอาหารที่ประทุออกมามีมาก อาหารที่สามารถตอบสนองความอยากดังกล่าวได้ดีที่สุดก็มักเป็นอาหารขยะทั้ง หลาย สุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยการกินเกินกว่า 500 Kcal ดังนั้น คุณผู้หญิงควรจะเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์เมื่อความหิวเริ่มประทุขึ้น อย่ารอให้ความหิวโหยดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะควบคุมมันไม่ได้ โดยการนี้อาจจะค่อย ๆ เพิ่มการรับประทานขึ้นมาแล้วดูว่าปริมาณอาหารแค่ไห สามารถบรรเทาอาการความหิวโหยของคุณได้ โดยไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 500 Kcal /วัน ช่วงก่อนมีประจำเดือน
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะพยายามสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่สามารถลดความ หิวโหยดังกล่าวได้ ก็ไม่ควรคิดมากจนเกินไป อย่าลืมว่าการเผาผลาญของคุณก็จะสูงขึ้นมากกว่าปกติอยู่แล้วในช่วงดังกล่าว นอกจากนี้แล้วหากมองโลกในแง่ดีการที่คุณทานมากขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ขณะที่คุณลดความอ้วนอยู่ ยังเป็นการกระตุ้นฮอร์โมน Leptin ให้ทำงานได้ดีขึ้นและสุดท้ายก็จะส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของคุณดีในระยะยาว อีกด้วย

Basal Metabolism Rate (BMR)

Basal Metabolism Rate (BMR) คือ สูตรคำนวณพลังงานที่ใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติเฉพาะคน ซึ่งออกแบบมาให้มีความแม่นยำ ช่วยกำหนดและจำกัดจำนวนพลังงานที่ร่างกายต้องการ โดยคิดจากน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เพศ และโครงสร้างของร่างกาย

          BMR สำหรับผู้ชาย = 66+(13.7xน้ำหนักตัวเป็นกก.)+(5xส่วนสูงเป็นซม.)-(6.8xอายุ)

          BMR สำหรับผู้หญิง = 665+(9.6xน้ำหนักตัวเป็นกก.)+(1.8xส่วนสูงเป็นซม.)-(4.7xอายุ)

          ตัวอย่างเช่น ผู้หญิง อายุ 35 ปี ส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 60 กก. BMR จะเท่ากับ 665 +(9.6 x 60)+(1.8 x 165)-(4.7 x 35) = 1373.5 แคลอรี

          หากมีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน หรือออกกำลังกายเพิ่มเติม ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญพลังงานเพื่อนำมาใช้มากขึ้น สามารถคำนวณพลังงานดังนี้

          นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ได้ออกกำลังกายเลย = BMR ที่คำนวณได้ x 1.2

          ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเล็กน้อย ประมาณอาทิตย์ละ 1-3 วัน = BMR ที่คำนวณได้ x 1.375

          ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาปานกลาง ประมาณอาทิตย์ละ 3-5 วัน = BMR ที่คำนวณได้ x 1.55

          ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนัก ประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วัน = BMR ที่คำนวณได้ x 1.725

          ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างหนักทุกวันเช้าเย็น = BMR ที่คำนวณได้ x 1.725

          ตัวอย่างเช่น BMR ของคุณ = 1502.9 คุณเป็นคนออกกำลังกายเล็กน้อย ก็เอา BMR x1.375 นั่นคือปริมาณแคลอรีที่คุณต้องการต่อหนึ่งวัน คือ 1502.9 x 1.375 = 2066.49แคลอรี ดังนั้น เพื่อที่จะลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก เราก็ไม่ควรกินอาหารมากเกินกว่าปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการต่อวัน

ค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index)

สูตร BMI การคำนวนหาค่า BMI (Body Mass Index) ทำอย่างไร?

การที่จะบอกได้ว่าคนๆนั้นอวบหรืออ้วน หรือน้ำหนักเกินนั้น หากใช้สายตาประเมินก็เป็นเรื่องของแต่ละคนว่าจะมองแบบไหนว่าอ้วน หรือแค่อวบกันแน่
เกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานที่จะมาจับได้ก็คือค่า BMI หรือ Body Mass Index นั่นเองครับ

สูตรการคำนวนหาค่า BMI ก็คือ = น้ำหนัก(กิโลกรัม) หาร ส่วนสูง(เมตร)ยกกำลังสอง

ยกตัวอย่างการคำนวณ
สมมุติว่าคุณหนัก 60 kg และสูง 165 cm
ก่อนอื่นก็แปลงส่วนสูงเป็นเมตรก่อนครับ
โดย 165 เซนติเมตร พอกลายเป็นเมตรก็เท่ากับ 1.65 เมตรครับ
ก็เอาค่ามาเทียบในสูงได้เลย

       = 60 / (1.65 x 1.65)
       = 22.03

ค่า BMI ก็จะเท่ากับ 22.03 นั่นเองครับ

เมื่อได้ค่ามา ก็เอามาเทียบตามค่าดังนี้ครับ
       - ต่ำกว่า 17 = ผอม กินให้เยอะกว่านี้หน่อยจะดีกว่านะ
       - 17-18.4 = สมส่วน ทำตัวให้เหมือนเดิมอ่ะ ดีแล้ว ^ ^
       - 18.5-24.9 = เริ่มจะอวบ (ยังไม่อ้วนนะ) ระวังหน่อยๆ ช่วงนี้เริ่มกินเยอะขึ้นแล้วใช่ไหมเรา?
       - 25-29.9 = อวบระยะสุดท้ายหรืออ้วนแล้วล่ะ แต่ยังไม่ถึงกะเป็นอันตราย ให้รีบลด
       - มากกว่า 30 = อ้วนแบบอันตรายแล้วล่ะ รีบลดด่วนๆ

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทั้งชีวิตเคยอ้วนมายังไงไม่รู้ แต่ต่อจากนี้เราจะลดน้ำหนักกัน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน มาทำตามสัญญาแล้วนะคะหลังจากที่ลงรูปตอนที่ "แอบมาถ่ายทำVTR ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก มีกองเชียร์มาด้วย 55555 15.5 โล ชีวิตเปลี่ยนจริงๆ" ก็มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาสนใจกด like กันเยอะแยะมากมาย จนนึกสนุกขึ้นมาตั้งใจว่าถ้าเพื่อนๆมาไลท์ให้เกิน100 like ก้อจะถ่ายทอดวิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีและไม่กลับมาอ้วนอีกให้กับทุกคน และแล้วก็เกินจริงๆด้วยทะลุไปที่108ในเวลานี้ เปงเหตุให้ต้องมานั่งพิมพ์อยู่นี่ 555 อะว่ากันไปค่ะ 


เริ่มไงดีอ่ะ... เอาความเป็นธรรมชาติแบบของยุ้ยละกันนะคะ จะให้ยุ้ยไปนั่งเขียนเหมือนพวกที่ขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักพวกนั้นยุ้ยคงไม่เอาไม่ชอบ 555



     อันดับแรกยุ้ยว่าเราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าเราอ้วนเพราะอะไร ส่วนตัวยุ้ยเอง เกิดมาก็ไม่ได้อ้วนนะเรียกว่าทั้งครอบครัวไม่มีใครอ้วนเลย มียุ้ยเนี่ยแหละเหตุมันเริ่มจากด้วยความซนตามประสาเด็กก็เล่นน้ำกับพี่ชายจนตัวเปียกปอน พอใกล้เวลาที่แม่เลิกงาน เลยไม่รู้จะทำไง พี่ชายเลยตัดสินใจเอาพัดลมมาเป่าซะเลยหวังให้ตัวแห้ง ทีนี่ละก็ได้เรื่องส่งโรงพยาบาลกันเลยทีเดียวเนื่องจากปอดชื้น หมอสรุปว่าเป็นปอดบวม รักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 3 เดือน ก็กินน้ำเกลือยาวๆ อย่าเข้าใจผิดนะคะ ว่าน้ำเกลือทำให้อ้วน แต่ร่างกายเราบวมน้ำเลย พอเป็นเด็กไม่แข็งแรงก็จะมีแต่คนมาเยี่ยมพร้อมขนมนมเนยไม่เคยขาด แน่นอนเราก็จัดเต็ม รู้ตัวอีกทีก็ไม่ไหวแร้น แห่ะๆ น้ำหนักเริ่มเกินมาตรฐาน แต่พยายามบอกตัวเองว่ายังไม่อ้วน
    จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ช่วงชีวิตสมัยมหาวิทยาลัย เริ่มรู้จักกับคำว่ายาลดน้ำหนัก เหตุเนื่องมาจากอยากผอมอยากสวยก็จัดซะเลย จัดกันเปงทีม จัดกันเปงกลุ่ม ตัวยุ้ยเองก็จัดมาหลายสถาบันอยู่เหมือนกันคิคิ กินยาวๆตั้งแต่ประมาณปี 43 เรียนจบปี 46 ก็ยังไม่เลิกกิน กินอยู่5ปีได้ กินจนถึงชุดแรงสุด ไม่กล้าไปซื้อเองต้องให้พี่มัยไปซื้อให้



     กินไปกินมาอาการเริ่มออก เริ่มเบลอๆ ยาถ่ายที่เขาจัดมาให้ก็ต้องกินหนักขึ้นเรื่อยๆถ้าไม่กินก็ไม่ถ่าย ทรมานสุดๆ แต่ที่ตัดสินใจเลิกกินเพราะพ่อกับแม่ไม่สบายใจและเป็นห่วงมาก ร่างกายเราก็ไม่ไหวแล้วด้วยเลยหยุด ยุ้ยก็พยายามหาหลายวิธีนะทั้งสถาบันชื่อดังมาจัดโปรโมชั่นที่มหาวิทยาลัยตอนทำงานอยู่ ดูแล้วก็ไม่รอด เลยหันมากินสูตร ที่รู้จักกันสตรลดน้ำหนัก 3 วัน สูตร 5 วัน 7 วัน ก็ยุบลงนะ แต่ก็กลับมากลมอีก พวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร her.... ไรพวกนี่ก็ลอง แต่ก็เอาเราไม่อยู่ น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายทำไงรู้มะคร้า จะบอกว่าทำวิธีนี้แล้วสบายใจที่สุด ตั้งใจอ่านให้ดีนะคะ >>> อยากกินไรกินเข้าไปเลย เสื้อผ้าเหรอก็ซื้อใหม่เอาไง เวลาใครถามก็บอกว่าเสื้อมันหด ที่สำคัญก็บอกตัวเองว่าอ้วนก็น่ารักดี เวลาเจออาหารถูกใจก็บอกตัวเองว่าพรุ่งเน้่ค่อยลดก็ได้ ซื้อเสื้อผ้าตัวใหญ่มาใส่ แล้วบอกตัวเองว่าเสื้อยังหลวม เสื้อผ้าเก่าๆงัดมาใส่ ก็แบบว่ายัดสุดๆ ฟิวส์ข่มขืนเสื้อผ้า 5555 จนสุดท้ายเอาไม่อยู่จริงๆ ปล่อยเลยค้าบปล่อย ปล่ิอยยาวๆ มาดูภาพกัน บางคนบอก ไหนๆ เอ๊า...ดูกันชัดๆ








    เหอๆๆๆๆ เห็นภาพแล้วก็ยังทำใจไม่ได้ โศกนาฎกรรมชัดๆ T___T แต่ถามว่าทำไมถึงตั้งใจเอาจริงที่จะลดล่ะ เพราะครั้งนี้แรงบันดาลใจของยุ้ยมันชัดมากไง ยิ่งช่วงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตอนงานศพของคุงพ่อยุ้ย ยุ้ยยิ่งคิด มันคือสิ่งที่คุณพ่อเคยขอยุ้ยไว้ ยุ้ยไม่แข็งแรงอยู่แล้ว พ่อกลัวว่าอ้วนมากแล้วโรจะรุมเร้า เชื่อมะคะตอนที่ยุ้ยเริ่มตั้งใจลดน้ำหนักแล้วเริ่มผอมลง คุณแม่เอ่ยปากมาเองเลยว่า "พ่อเห็นหนูในวันนี้พ่อคงดีใจไม่น้อยเลย" นั่นเปงอีกหนึ่งแรงฮึดจริงๆ แต่ที่คู่กันคือพอจังหวะที่ยุ้ยอ้วนมาก ยุ้ยปวดเข่าและปวดหลังมากยาวมาถึงต้นคอจนบางครั้งปวดจนน้ำตาไหล แน่นอนค่ะบางครั้งการลดน้ำหนักมันมีอารายมากกว่า แรงบันดาลใจที่บอกว่าลดแล้วสวย แต่ไม่อยากให้เพื่อนๆทุกคนต้องเป็นอย่างยุ้ยก่อนนะคะ นี่แหละเป็นสิ่งที่ยุ้ยตัดสินใจลดเด็ดขาด ลดม้วนเดียว ลดให้มันจบ อะไรที่ยากกว่านี้เราทำมาก็ตั้งเยอะ เรื่องแค่นี้ "ยากจริงหรือ" เราไม่ยอมแพ้คนอื่น แต่ทำไมถึงยอมแพ้ให้กับเรื่องง่ายๆของตนเองมาๆๆๆๆ ถึงเวลาเข้าเรื่องของเราทุกคนกันทำไงให้ลดน้ำหนักได้

บางคนถาม "เม้าท์มาทั้งหมดจะสื่อไรเนี่ย"
ก็จะสิ่อว่าการจะลดน้ำหนักแรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญไง

      กฏข้อที่ 1 หาแรงบันดาลใจให้เจอและต้องชัด พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง
      หาแรงบันดาลใจของตัวเองให้เจอ หาไม่เจอหรือไม่จริงจัง ขอโหดดดดด จะบอกว่าไม่ต้องอ่านต่อแล้วจร้า ยังไงก็ไม่สำเร็จ ใครอ่านเรื่องราวของยุ้ยแล้วจริงจังทำตาม ลดล้านเปอร์เซนต์

      เราจะใช้เวลาทั้งหมด 45 วันในการลดน้ำหนักครั้งที่ 1 ดังนั้นกางปฏิทินตัวเองซะเลยนะคะ ขีดไว้แล้วบอกกับตัวเองว่า 45 วันที่เราเคยปล่อยให้ผ่านไป ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในชีวิต ไม่เห็นจะมีไรทำให้เราเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าครั้งนี้ฝืนใจหน่อย อดทนนิด ใช้เวลา 45 วันเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองเลยดีกว่า..บางคนบอกเว่อร์ แค่ลดน้ำหนักจะเปลี่ยนแปลงถึงชีวิตเลยเหรอ อย่างมากก็แค่เปลี่ยนหุ่น ถ้าคุณไม่เชื่อเรามาเดิมพันกันเลยค่ะ ว่าชีวิตและสุขภาพคุณเปลี่ยนด้วยแน่นอน
 
     การตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เช่นใน 30 วันแรก อยากลดให้ได้ 6 กิโล แสดงว่าต้องมาเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่อาทิตย์ละ 1.5 กิโลกรัม ซอยย่อยเป้าหมายให้เห็นกันชัดๆเลยเนอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องทราบค่า BMI ของตัวเองก่อน BMI คืออะไร คือค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) จะบอกได้ว่าคนๆนั้นอวบหรืออ้วน หรือน้ำหนักเกิน ใครไม่ทราบวิธี Clickที่นี่ เลยค่ะ    หลังจากนั้นอัตราการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน รู้กันก่อนค่ะว่าวันนึงเราเผาผลาญได้เท่าไหร่ Click เลยจ้า

---พร้อมยังคะ ถ้าพร้อมแล้วลุยนะ อย่าแพ้ภัยตนเอง---

      กฏข้อที่ 2 ควบคุมอาหาร ทานได้ 800 - 1000 แคลอรี่/วัน
      บางคนเห็นข้อนี้ก็ท้อซะแล้ว ตีตนไปก่อนไข้ว่าฉันไม่ไหวฉันทำไม่ได้ จะบอกว่าเคยคิดเหมือน 5555 แต่พอลองทำไม่เห็นจะยากเลย เราต้องเข้าใจว่าเหตุที่เราอ้วนเพราะ
"เราเอาเข้าไป มากกว่าเอาออกมา" อดทนนิดนะคะ 45 วันเอง  
>>> ห้ามอดอาหาร <<<
 ใครโหลด app ได้ไปโหลด Fit D มาใช้เลยค่ะ ส่วนการรับประทานอาหารว่าควรเลือกทานดังนี้นะคะ เน้นว่าสำัคัญมาก

เช้าทานกล้วยหอมดีที่สุด ใน 45 วันนี้ 1 ลูกเฉลี่ยอยู่ที่ 120 กิโลแคลอรี่เท่านั้น มื้อกลางวัน เย็นดูตามรูปเลยค่ะ เน้นนะคะวันนึงห้ามเกิน 800 - 1000 แคลอรี่ บางคนชอบลักไก่ เที่ยงแบบว่าเอาง่ายสะดวกไว เลยจัดข้าวผัดคะน้าหมูกรอบ 1 จาน เพื่อนๆรู้มะคะว่ากี่แคล อยู่ที่ 670 กิโลแคลอรี่เลยค่ะ กินอันเน้จานนึงเท่ากับเราทานลาบหมูได้ 5 จานเลย เพราะลาบหมูโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 130 กิโลแคลอรี่เองค่ะ


     ที่สำคัญยุ้ยต้องใช้ตัวช่วยด้วย 3 ตัว ซึ่งจะทำให้ได้ผลไหวมากและไม่ทำให้ร่างกายเกิดเอฟเฟค ตัวแรกใช้โอลิโก ไฟเบอร์ ในการ Detox ลำไส้ก่อน เพื่อการดูดซึมที่ดี อีกอย่างใช้เวลาที่เราหิวได้ด้วย ไม่อ้วนแต่รสชาติอร่อยมากเป็นรสน้ำสัปปะรดเลย แล้วที่สำคัญมากๆคือยุ้ยใช้ตัว AG Bloc ตัวนี้ช่วยบล็อคแป้งกับน้ำตาลซึ่ง 1 เม็ดบล็อคได้ 200-300 kcal เพราะฉะนั้นจึงช่วยได้เป็นอย่างดี เหมือนกับเรามีตาข่ายป้องกันอาหารจะเข้าสู่ร่างกาย สุดท้ายคือตัว 6L ช่วยเบิร์น อันเน้เด็ดดวงเพราะจะช่วยเราเบิร์นไขมันในร่างกายได้เป็นอย่างดี ใครชอบออกกำลังกายกินตัวนี้ยิ่งเพิ่มการเผาผลาญได้อย่างเวิร์ค ที่สำคัญทุกตัวเปงสารสกัดจากธรรมชาติหมดด้วย หยุดก็ไม่โย้เพราะลองแล้ว ตอนเน้ยุ้ยใช้ทั้งหมดเน้อยู่ แต่ถ้ามีตัวไหนเด็ดดวงจะรีบมาเม้าท์ต่อทันที เหงว่ากำลังมี นวัตกรรมแบบใหม่ ใช้ทาเลย 5555 เด๋วไงลองใช้ก่อนแล้วจะอัพเดทให้ฟัง
"แต่จะบอกว่าตัวช่วยยังไงก็คือตัวช่วย ตัวเราเนี่ยสำคัญฟุดๆ เข้าใจ บ่"

      กฏข้อที่ 3 ต้องชั่งน้ำหนักทุกวัน เช้าและเย็น
      บอกเลยว่าต้องชั่ง บางคนรับตัวเองไม่ได้ กลัวความจริง ชั่งแล้วทำใจไม่ได้ ขอบอกเลยว่าต้องทำค่ะ ไม่งั้นเราจะไม่รู้ตัวเองเลย และจะแก้ไขมันไม่ทัน ยุ้ยเองแรกๆก็ไม่ชินแต่หลังๆชั่งเกินวันละ 2 ครั้งอีก ตาชั่งต้องเป็นแบบดิจิตอลนะคะเสถียรกว่าบอกเป็นจุดทศนิยมกันเลยทีเดียว เวลาในการชั่งคือ ตื่นนอนปุ๊บยังไม่ต้องทานอารายเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วออกมาชั่ง อีกทีก็เป็นตอนก่อนนอน อาบน้ำอาบท่าเสร็จจะนอนก็ชั่งค่ะ ไม่ต้องตกใจนะคะ น้ำหนักตอนเย็นเยอะกว่าตอนเช้าอยู่แล้ว อ๋อเคล็ดลับ ยุ้ยกิน6L ก่อนนอน 3 เม็ดด้วย ร่างกายเราขณะที่พักผ่อนก็จะเผาผลาญได้ดีกว่าเดิม มีภาพการชั่งมาโชว์
 
      กฏข้อที่ 4 ใส่รูปแรงบันดาลใจของตัวเองไว้ที่หน้าจอโทรศัพท์
      ยุ้ยเชื่อว่าแรงบันดาลใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราได้เห็นมันทุกๆวัน เราจะมีกำลังใจที่จะทำขึ้นเยอะเลยค่ะ จริงๆนะคะ ^^
 
      กฏข้อที่ 5 ออกกำลังกาย 3ครั้ง/อาทิตย์
      การออกกำลังกาย ช่วยได้ดีมากเลยค่ะ ยุ้ยเองใช้การออกกำลังกายที่บ้านล้วนๆ แรกๆก็เล่น Hula ครั้งนึงก็จะประมาณ 40-60 นาที เวลาเหงื่อออกแล้วมันโล่งดีจังเลยค่ะ เมื่อก่อนขี้เกียจมากกกขอบอก
แต่พอซักพักก็ต้องเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกาย เพราะเหมือนร่างกายมันชินเลยไปหาคลิปมาใช้ จะบอกว่าเด็ดสุดๆ ลองทำตามนะคะเขาสอนด้วย หลังออกกำลังกาย ยุ้ยกินมัลติโปรด้วยค่ะ มันจะช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อด้วยคร้า

      กฏข้อที่ 6 พยายามหาคลิปหรือรูปเกี่ยวกับการลดน้ำหนักให้ตัวเองดูเสมอๆ   
      ยุ้ยเองก็มีมาฝากเพื่อนๆเหมือนกันนะคะลองเลือกดูกันนะ 555
     


 
คลิปนี่โคตรดี ต้องดูเลย

*** สิ่งที่ต้องรู้สำหรับสาวๆ ไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้ารู้สึกว่าช่วงที่มีประจำเดือนแล้วน้ำหนักขึ้น เพราะจะมีอาการตัวบวม เกิดจากการที่ฮอร์โมนบางตัวส่งผลให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ในชั้นเนื้อเยื่อร่าง กายมากขึ้น ผลก็คือจะทำให้น้าหนักตัวเพิ่ม อึดอัด ตัวบวม เต้านมคัดตึง โดยรวมคืออาการหงุดหงิดและไม่สบายกับร่างกาย อ่านต่อที่นี่ค่ะ

      พอๆๆ เมื่อยแร้น 5555 ยุ้ยสรุปให้ตามนี้นะคะ
1. หาแรงบันดาลใจ และเป้าหมายให้ชัด
2. ต้องมีวินัยจริงๆ รับประทานอาหารห้ามเกิน 800-100 Kcal/วัน และใช้อาหารเสริมอย่างมีวินัยเช่นกัน
    ห้ามอดอาหาร โดยเด็ดขาด ไม่งั้นคุณกลับมาอ้วนอีกแน่นอนล้านเปอร์เซนต์
3. ชั่งน้ำหนักทุกวัน เช้าและเย็น
4. ใส่รูปแรงบันดาลใจของตัวเองไว้ที่หน้าจอโทรศัพท์
5. ออกกำลังกาย 3ครั้ง/อาทิตย์
6. หาคลิปหรือรูปเกี่ยวกับการลดน้ำหนักให้ตัวเองดูเสมอๆ

ตัวอย่างรูปการลดน้ำหนักของยุ้ย
มือเช้าโฮลวีต น้ำพริกปลาแมคคาเรล ไม่เกิน 150 kcal

มื้อเที่ยง จับฉ่าย ข้าวเปล่า 3 ช้อน (ไม่ใช่ 3ทัพพีเน้อ) 230 kcal

มื้อเย็น ปลาลวกจิ้ม ไม่เกิน 200 kcal

ออกกำลังกายวันละ40-50 นาที มัลติโปรหลังออกเสร็จอีก 60  kcal

ก่อนทานอาหารมื้อเที่ยงกับเย็น AG Bloc กับ 6L อย่างละ 3 เม็ด ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง

มื้อเย็นเพิ่ม Oligo ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง

                                       82 กิโล                                 67.3 กิโล

ใครอ่านแล้วจะลงจริงๆเด๋วยุ้ยเปงโค้ชให้ตลอด 45 วันนะคะ อยากช่วยให้ลดได้จริงๆ ยุ้ยเข้าใจว่าพออ้วนแล้วเป็นไง เหอๆๆๆ T___T



วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ว้าววววว ชอบเอาเรื่องจริงมาเม้าท์อีกแร้น 555555


สร้างพระ ถวายวัดค่ะ

 
อิ่มบุญมาก ถวายพระเสร็จน้ำตาก้อไหลออกมาเองโดยไม่รู้ตัว.....ขอกราบขอบพระคุณเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆที่มีจิตศรัทธาร่วมกันสร้างพระหลวงพ่อทันใจและสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ทั้ง2องค์ในครั้งนี้เปงอย่างสูงนะคะ วันนี้ยุ้ยพี่มัยและครอบครัวได้นำหลวงพ่อ ทั้ง2องค์ไปถวาย ณ วัดไชยสงคราม จ.อ่างทองเปงที่เรียบร้อยแล้วค่ะ พร้อมทั้งเลี้ยงเพลพระภิกษุสงฆ์ด้วย วัดนี้มีพระสงฆ์6รูปเท่านั้นเอง หลวงพ่อเจ้าอาวาสอายุ80กว่า ท่านเปงพระนักพัฒนา ท่านดีใจมากที่เรานำพระไปถวาย ลูกศิษย์่ท่านแอบมาบอก ขอให้กุศลผลบุญในครั้งนี้ ส่งผลให้ทุกท่านได้รับความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดสมปรารถนาทุกประการ ยุ้ยว่าเด่วยุ้ยจะกลับไปช่วยท่านอีกช่วงกฐินวันที่ 3 พ.ย. ยังไงจะแจ้งให้ทราบเปงระยะนะคะ ใครผ่่านไปมาสามารถไปกราบพระพุทธรูปที่เราร่วมสร้างด้วยกันได้นะคะ 

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Package Internet DTAC มาฝากค่ะ พอนี้วันนี้ต้องใช้เลยเอามาฝาก

 วันเน้ไปหาโปรอินเตอร์เน็ทของดีแทคมาค่ะเลย copy มาฝากเพื่อนๆด้วย เผื่อใครหาอยู่

########################################

สมัครเน็ตดีแทค โปรอินเตอร์เน็ตดีแทค Package Internet DTAC

สมัครเน็ต dtac โปรเล่นเน็ต dtac โปรเน็ตดีแทค สมัครเน็ตดีแทค








แพ็คเกจอินเตอร์เน็ตดีแทค [ Package Internet Dtac ] อัพเดทล่าสุด 15/8/2556

โปรเล่นเน็ต dtac : ใช้ได้ 1เดือน (ต่ออายุอัตโนมัติ)

สมัครเน็ตดีแทค [ Dtac Internet ] แบบคิดตามนาที

Dtac Internet 99 บาท เล่นได้ 20 ชั่วโมง วิธีกดสมัคร *104*12*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน หากใช้หมดก่อน สมัครซ้ำไม่ได้ )
-------------------------------------------------------------------------------------

Dtac Internet 199 บาท เล่นได้ 70 ชั่วโมง วิธีกดสมัคร *104*13*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน หากใช้หมดก่อน สมัครซ้ำไม่ได้ )
-------------------------------------------------------------------------------------


สมัครเล่นเน็ตไม่อั้น ดีแทค [ Dtac internet unlimited ] + DEEZER ใหม่

Dtac Internet 399 บาท เล่น ไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*21*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน64Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว 42 Mbps 1 GB)
-------------------------------------------------------------------------------------

Dtac Internet 449 บาท เล่นไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*553*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน384Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว42 Mbps 1.2 GB)
(ฟังเพลงฟรีผ่านมือถือสมาร์ทโฟนได้กว่า 18ล้านเพลงทั่วโลกผ่าน app DTAC DEEZER) *ใหม่*
-------------------------------------------------------------------------------------

Dtac Internet 650 บาท เล่นไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*23*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน384Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว42 Mbps 3 GB)
-------------------------------------------------------------------------------------

Dtac Internet 890 บาท เล่นไม่อั้น 1 เดือน วิธีกดสมัคร *104*22*1472141# โทรออก
(เล่นเน็ตดีแทคไม่อั้น 1 เดือน ความเร็วไม่เกิน384Kbps + รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็ว42 Mbps 5 GB)
-------------------------------------------------------------------------------------


สมัครเน็ตดีแทค แบบคิดตามปริมาณการใช้งาน

Dtac Internet 99 บาท เล่นได้ 75 MB วิธีกดสมัคร *104*25*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน ใช้หมดก่อนสมัครซ้ำไม่ได้ , รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps)
-------------------------------------------------------------------------------------

Dtac Internet 199 บาท เล่นได้ 250 MB กดสมัคร *104*26*1472141# โทรออก
(ใช้ภายใน 1 เดือน ใช้หมดก่อนสมัครซ้ำไม่ได้ , รับสิทธิ์ใช้ 3G ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps)
-------------------------------------------------------------------------------------



สมัครเน็ตดีแทค Smartphone Package โปรโมชั่นหลัก

โปรอินเตอร์เน็ตดีแทค สมาร์ทโฟน สำหรับลูกค้าเติมเงิน มี "ทั้งโทรและเน็ต" ในแพ็คเกจเดียว
โปรเน็ตดีแทค สมาร์ทโฟน 5 แพ็คเกจนี้ เป็นโปรหลักไม่ใช่โปรเสริมนะคะ
*ออกใหม่ 8/56*สำหรับลูกค้าดีแทค เติมเงิน [ Happy Dtac ]

เมื่อสมัครแล้วถือเป็นการเปลี่ยนโปรโมชั่นปัจจุบันของลูกค้ามาใช้โปรเน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน
อัตราค่าบริการต่างๆที่ใช้อยู่เดิมจะถูกยกเลิกเป็นโปรใหม่นี้แทน โดยไม่เสียค่าเปลี่ยนโปรค่ะ

เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 89 บาท เน็ต 40 MB 7วัน วิธีสมัคร *103*111*1472141# โทรออก
เล่น Facebook + Line + WhatsApp ได้ไม่จำกัด 7 วัน
(เป็นโปรรายสัปดาห์ ใช้ภายใน 7 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ )
-------------------------------------------------------------------------------------

เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 299 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*112*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 500 MB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 500 MB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
** สิทธิ์การใช้เน็ตไม่อั้นของแพ็คเกจนี้ได้เพียง 6 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นเล่นได้ 500MB/เดือน **
-------------------------------------------------------------------------------------

เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 399 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*113*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 750 MB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 150 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 750 MB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
-------------------------------------------------------------------------------------

เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 499 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*114*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 1 GB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 250 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 1 GB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
-------------------------------------------------------------------------------------

เน็ตดีแทคสมาร์ทโฟน 699 บาท เน็ตไม่อั้น 30 วัน วิธีสมัคร *103*115*1472141# โทรออก
เล่นเน็ตความเร็ว 3G ได้ 2 GB + โทรฟรีทุกเครือข่าย 400 นาที
(ใช้ภายใน 30 วัน ต่ออายุอัตโนมัติถ้ายอดเงินพอ เล่นเน็ตความเร็วเน็ต 3G สูงสุด 42Mbps
เมื่อใช้เน็ต 3G ครบ 2 GB แล้วเล่นเน็ตไม่อั้น 30 วัน ในความเร็วไม่เกิน 64Kbps )
-------------------------------------------------------------------------------------

โปรเน็ตดีแทค สมาร์ทโฟน สมัครแล้วเป็นโปรโมชั่นหลัก ไม่ใช่โปรเสริมนะคะ
อัตราค่าโทรส่วนเกินจากแพ็คเกจ นาทีละ 99 สต. ทุกเครือข่าย
เล่นอินเตอร์เน็ตส่วนเกินจากแพ็คเกจ เมกกะไบต์ละ 2 บาท
ส่ง sms ข้อความละ 1 บาท ส่ง mms ข้อความละ 5 บาท
ค่าบริการข้างต้นยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%


สมัครแล้วรอรับ sms จากระบบนะคะ ซึ่งอาจมีบางวันที่รอรับ sms นานมาก...
ถ้าไม่ได้รับ sms ตอบกลับ ให้เช็คยอดเงิน กด *101# โทรออกค่ะ หรือ
กดเช็คสิทธิการใช้งาน โปรอินเตอร์เน็ตดีแทค กด *101*4# โทรออกค่ะ



ระบบการสมัครโปรของดีแทคอาจขัดข้องบางช่วงเวลานะคะ หากสมัครไม่ได้ ให้จดวิธีการสมัครไว้ก่อน แล้วรอสัก 5-10 นาทีแล้วกดสมัครใหม่นะคะ




โปรเน็ต ดีแทค เติมเงิน [Happy Dtac] คลิ๊กที่รูปด้านล่างค่ะ

^^  พิเศษสำหรับ Happy มีเน็ต 3 ชม 15บาท, 5 ชั่วโมง 50 บาท และ แบ

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อ่านแล้วน่าคิด

วันนี้ไปเจอข้อคิดดีๆมาเลยอยากเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะคะ
รูปแบบการบริหารและการใช้เงิน
เป็นหมอดูทำนายอนาคตได้แม่นยำ
อยากรู้ว่าอนาคตเราจะเป็นเช่นไร?
สำรวจดูเราใช้เงินแบบ"ว่าที่ยาจกหรือว่าที่เศรษฐี"

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เก็บตกวันแม่นะคะ

เหลือกันแค่สองคนแม่ลูก แต่เราจะไม่ทำให้พ่อต้องห่วง เราสองคนแม่ลูกจะรักและดูแลกันตลอดไป ลูกจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดค่ะ ไม่ใช่แค่ห่วงใย แต่จะใส่ใจทุกๆวินาที รักแม่ในทุกลมหายใจ วันทุกวันคือวันแม่สำหรับยุ้ย

Welcome Welcome !!!!



สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคนนะคะ ชื่อยุ้ยค่ะ โดยส่วนตัวนั่งทำงานอยู่หน้าคอมเป็นประจำอยู่แล้ว หมู่นี้ใช้บล็อคเกอร์ทำงานบ่อย เลยอยากจะสร้างบล็อคส่วนตัวของตัวเองดูบ้าง คล้ายๆกับการเขียนไดอารี่ฟิวประมาณนั้นเลยมั่งคะ 5555 เรื่อยเปื่อยบ้าง มีสาระบ้าง ลองอ่านติดตามกันดูนะคะ